วันอังคารที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2550

ในหลวงของเรากับเทคโนโลยี

ทรงสนับสนุนการค้นคว้าในทางวิทยาการคอมพิวเตอร์

พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่สนพระทัยใฝ่รู้และทรงศึกษาอย่างจริงจัง ลึกซึ้งในการค้นคว้าวิจัยเพื่อการพัฒนาในทางวิทยาศาสตร์ วิศวกรรมศาสตร์ การเกษตร การชลประทาน การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และการใช้เครื่องมือเทคโนโลยีต่างๆ โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีสารสนเทศนั้น ทรงเห็นความสำคัญและประโยชน์อย่างยิ่ง ทรงสนับสนุนการค้นคว้าในทางวิทยาการคอมพิวเตอร์ ในด้านส่วนพระองค์นั้น ทรงศึกษาคิดค้นสร้างโปรแกรมคอมพิวเตอร์เพื่อการประมวลผลข้อมูลต่างๆ ด้วยพระองค์เอง ทรงประดิษฐ์รูปแบบตัวอักษรไทยที่มีลักษณะงดงาม เพื่อแสดงผลบนจอภาพคอมพิวเตอร์และเครื่องพิมพ์ ทรงใช้เครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อบันทึกพระราชกรณียกิจต่างๆ ทรงติดตั้งเครือข่ายสื่อสารคอมพิวเตอร์เพื่อสนับสนุนพระราชภารกิจต่างๆ ทั้งยังทรงเคยประดิษฐ์ ส.ค.ส. ด้วยคอมพิวเตอร์ เผยแพร่ผ่านสื่อมวลชนเพื่อทรงอวยพรปวงชนชาวไทย
พระองค์ทรงสนพระทัยคอมพิวเตอร์เป็นอย่างมาก สังเกตได้จากขณะเสด็จพระราชดำเนินชมงานนิทรรศการต่างๆ เช่น สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง พระองค์สนพระทัยซักถามอาจารย์และนักศึกษาที่ประดิษฐ์ซอฟต์แวร์ต่างๆ อย่างละเอียดและเป็นเวลานาน

พระราชกรณียกิจด้านดาวเทียม

ดาวเทียมไทยคมนับว่า เป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้การสื่อสารโทรคมนาคมของไทยก้าวสู่ยุคแห่งความล้ำหน้า และได้เข้ามามีส่วนร่วมในการสนองพระราชดำริในเรื่องของการศึกษา คุณขวัญแก้ว วัชโรทัย เป็นผู้สนองพระราชภารกิจที่โรงเรียนไกลกังวล หัวหินซึ่งขณะนี้ได้พยายามที่จะนำเอาดาวเทียมไทยคมเข้าไปใช้ในกิจการด้านการเรียนการสอน เจตนารมณ์ดังกล่าวเป็นการสนองตอบความต้องการของประชาชน และเป็นการปรับปรุงในเรื่องของการศึกษาให้สอดคล้องกับยุคสมัยอีกด้วย อีกทั้งยังเป็นการจัดการศึกษาใต้ร่มพระบารมีอย่างแท้จริง และที่สำคัญเพื่อเป็นการสนองพระบรมราโชบายทางการศึกษา ในอันที่จะทำให้โรงเรียนไกลกังวลเป็นเครือข่ายและเป็นศูนย์กลางทางการศึกษาไทยคมอย่างแท้จริง กล่าวได้ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณเป็นอเนกอนันต์ต่อประเทศชาติ ที่ได้มีพระราชดำริให้มีการพัฒนางานทางระบบวิทยุสื่อสารขึ้นในประเทศอย่างจริงจัง และต่อเนื่อง เพราะสังคมปัจจุบันนั้น การสื่อสารก็เปรียบเสมือนกับระบบประสาทของร่างกายมนุษย์ ดังนั้นจึงนับได้ว่า พระองค์ท่านนั้นมีสายพระเนตรที่ยาวไกล ทรงเห็นบทบาทที่สำคัญยิ่งต่อการสื่อสาร

พระไตรปิฎกฉบับคอมพิวเตอร์ .

ในส่วนที่เกี่ยวกับศาสนานั้น ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ บริจาคทรัพย์ส่วนพระองค์ จำนวน 1,472,900 บาท ในเดือนพฤษภาคม 2534 ให้มหาวิทยาลัยมหิดล จัดทำโครงการพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์เพื่อการศึกษาพระไตรปิฎก และอรรถกถาต่อเนื่องจากโครงการพระไตรปิฎกฉบับคอมพิวเตอร์เดิม ที่มหาวิทยาลัยมหิดลพัฒนาเสร็จแล้ว และได้ทูลเกล้าฯ ถวายเพื่อร่วมเฉลิมฉลองเนื่องในวโรกาสรัชมังคลาภิเษก 2 กรกฎาคม 2531 ทรงเห็นว่าโครงการนี้ควรได้รวบรวมเอาชุดอรรถกถาและฎีกาเข้าไว้ด้วยกัน นับเป็นโครงการที่นำวิทยาการชั้นสูงมาประยุกต์ใช้กับข้อมูลเนื้อหาทางด้านพุทธศาสนา ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงศึกษาพระไตรปิฎกและอรรถกถาฉบับคอมพิวเตอร์นี้ด้วยพระองค์เอง และมีพระบรมราชวินิจฉัย และพระราชวิจารณ์ในการออกแบบโปรแกรมสำหรับใช้ในการสืบค้นข้อมูลในฐานะแห่งองค์เอกอัครศาสนูปถัมภก การครั้งนี้กล่าวได้ว่า เป็นการสืบต่อพระพุทธศาสนาให้ยั่งยืนยาวนานสืบไปในอนาคตกาล

วันจันทร์ที่ 3 ธันวาคม พ.ศ. 2550

แบบฝึกหัดเรื่องการสื่อความหมาย

แบบฝึกหัด การสื่อความหมาย
1. คำว่า Communis แปลว่า คล้ายคลึง หรือ ร่วมกัน
2. การสื่อความหมาย หมายถึง กระบวนการส่งหรือถ่ายทอดความรู้ เนื้อหา สาระ ตลอดจนประสบการณ์จาก"ผู้ส่ง" ไปยัง"ผู้รับ"
3. Sender - Message - Channel - Reciever
4. สาร หมายถึง เนื้อหา สาระ ความรู้สึก ทัศนคติ ทักษะ ประสบการณ์ ที่มีอยู่ในตัวผู้ส่ง หรือแหล่งกำเนิด
5. Elments หมายถึง องค์ประกอบย่อยๆ พื้นฐานที่จำเป็นต้องมีตัวอย่าง เช่น สระ พยัญชนะ วรรณยุกต์ หรือสีแดง สีเหลือง เป็นต้น
6. Structure หมายถึง โครงสร้างที่เกิดจากการนำเอาองค์ประกอบย่อยๆ มารวมกันตัวอย่าง เช่น คำ ประโยค หรือสีสันของรูปร่าง รูปทรง ฯลฯ
7. Content หมายถึง ข้อมูลที่เป็นความรู้สึกนึกคิดความต้องการของผู้ส่งตัวอย่าง เช่น จะทำอย่างไรให้ผู้รับสารเข้าใจเกี่ยวกับสารให้มากที่สุด
8. Treatment หมายถึง วิธีการเลือก การจัดรหัส และเนื้อหาให้อยู่ในรูปแบบที่จะสามารถถ่ายทอดความต้องการของผู้ส่งไปยังผู้รับได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตัวอย่าง เช่น แชมพูที่มี Treatment เพื่อไว้บำรุงผม แต่ในที่นี้หมายถึงรูปแบบของการสื่อความหมาย (Style)
9. Code หมายถึง กลุ่มสัญลักษณ์ที่ถูกนำมาจัดแทนความรู้สึกนึกคิด ความต้องการ ตัวอย่าง เช่น ภาษาพูด ภาษาเขียน ดนตรี ภาพวาด กิริยาท่าทาง ฯลฯ
10. อุปสรรคหรือสิ่งรบกวนภายนอก เช่น เสียงดังรบกวน อากาศร้อน กลิ่นไม่พึงประสงค์ แสงแดด ฝนสาด ฯลฯ
11. อุปสรรคหรือสิ่งรบกวนภายใน เช่น ความเครียด อารมณ์ขุ่นมัว อาการเจ็บป่วย ความวิตกกังวล ฯลฯ
12. Encode หมายถึง ผู้ส่งสารขาดความสามารถในการเข้ารหัส หรือแปลความต้องการของตนเป็นสัญลักษณ์หรือสัญญาณต่างๆ ได้
13. Decode หมายถึง ผู้รับสารขาดความสามารถในการถอดรหัสสาร อันเนื่องมาจากสาเหตุดังนี้
1. อุปสรรคด้านภาษา (Verbalism)
2. ความขัดแย้งกับประสบการณ์เดิม (Referent Confusion)
3. ขีดจำกัดของประสาทสัมผัส (Limited Perception)
4. สภาพร่างกายไม่พร้อม (Physical Discomfort)
5. การไม่ยอมรับ
6. จินตภาพ (Image) ไม่ตรงกันกับผู้ส่งสาร
14. จงอธิบายการสื่อความหมายในการเรียนการสอนมาให้ครบถ้วนและถูกต้อง กระบวนการเรียนการสอนเป็นกระบวนการสื่อความหมายอีกรูปแบบหนึ่ง ซึ่งมีองค์ประกอบ ดังนี้
ครู - เนื้อหา,หลักสูตร - สื่อหรือช่องทาง - นักเรียน และผลย้อนกลับ
15. จงอธิบายถึงความล้มเหลวของการสื่อความหมายในการเรียนการสอน กระบวนการเรียนการสอนมักจะประสบความล้มเหลวบ่อยๆ เนื่องจากอุปสรรคหลายประการดังนี้
1. ครูผู้สอนไม่บอกวัตถุประสงค์ในการเรียนให้ผู้เรียนทราบก่อนลงมือสอน ทำให้ผู้เรียนขาดเป้าหมายในการเรียน
2. ครูผู้สอนไม่คำนึงถึงข้อจำกัดและขีดความสามารถของผู้เรียนแต่ละคน จึงมักใช้วิธีสอนแบบเดียวกันทุกคน
3. ครูผู้สอนไม่สนใจที่จะจัดบรรยากาศ ขจัดอุปสรรคและสร้างความพร้อมแก่ผู้เรียนก่อนลงมือสอน
4. ครูผู้สอนบางคนใช้คำยาก ทำให้ผู้เรียนไม่เข้าใจความหมายของคำ และเนื้อหาโดยรวม
5. ครูผู้สอนมักนำเสนอเนื้อหากวน สับสน รวดเร็ว ไม่สัมพันธ์ต่อเนื่อง กระโดดไปมาทำให้เข้าใจยาก
6. ครูผู้สอนไม่สนใจที่จะใช้สื่อการสอนหรือเลือกใช้สื่อการสอนไม่เหมาะสมกับเนื้อหา และระดับของผู้เรียน
ดังนั้นในกระบวนการเรียนการสอนจึงควรคำนึงถึงอุปสรรคต่างๆ และพยายามขจัดให้หมดไป เพื่อให้ผู้เรียนเรียนรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

วันจันทร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550

นวัตกรรม

แนชันแนลสตาร์ชเปิดตัว “ฟู้ด อินโนเวชั่น” ชูภาพลักษณ์ผู้นำนวัตกรรมอาหาร
Source - Press Release, Local (Th/Eng)
Tuesday, February 15, 2005 17:31
กรุงเทพฯ--15 ก.พ.--สปาร์ค คอมมิวนิเคชั่นส์

แนชันแนลสตาร์ช ปรับโฉมใหม่ เปลี่ยนชื่อส่วนผลิตภัณฑ์อาหารเป็น “ฟู้ด อินโนเวชั่น” หวังตีตราจองตำแหน่งผู้นำด้านนวัตกรรมอาหาร เร่งพัฒนาสินค้าใหม่บุกตลาดอาหารเสริมสุขภาพในจีน เกาหลี ญี่ปุ่น ชูสินค้าหลัก “ไฮ-เมซ” ร่วมวิจัยกับพันธมิตรในเอเชีย

บริษัทแนชันแนลสตาร์ช แอนด์เคมิคอล ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตผลิตภัณฑ์อาหารชั้นนำระดับสากล ที่มีฐานการผลิตทั่วทั้งภูมิภาคเอเชีย เปลี่ยนชื่อส่วนผลิตภัณฑ์อาหารของบริษัท (Food Products Division) ภายใต้ชื่อใหม่อย่างเป็นทางการว่า “แนชันแนล สตาร์ช ฟู้ด อินโนเวชั่น” (National Starch Food Innovation) เพื่อเน้นถึงความเป็นผู้นำของบริษัทในการคิดค้นและผลิตนวัตกรรมอาหารในระดับนานาชาติ โดยจะเริ่มเปิดตัวในชื่อใหม่และใช้โลโก้ใหม่ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2548 เป็นต้นไป
มร. เจฟฟรี่ย์ ลอเรนท์ รองประธานแนชันแนลสตาร์ชแอนด์เคมิคอล ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกล่าวว่า การเปลี่ยนชื่อของส่วนผลิตภัณฑ์อาหารในครั้งนี้ ก็เพื่อสะท้อนภาพของความก้าวหน้าในการคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมอาหารของบริษัท ซึ่งปัจจุบันก้าวไปไกลกว่าการผลิตแป้งและเส้นใยอาหารเพื่ออุตสาหกรรมอาหารสำเร็จรูปแต่เดิมเป็นอย่างมาก ด้วยประสบการณ์กว่า 50 ปี ทางบริษัทได้ริเริ่มการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารที่เสริมคุณค่าทางโภชนาการ รวมทั้งผลิตภัณฑ์เพื่อการดัดแปลงและคงสภาพอาหาร รวมทั้งคาร์โบไฮเดรตเสริมสุขภาพอีกด้วย โดยชื่อใหม่จะแสดงให้เห็นถึงภารกิจและศักยภาพที่แท้จริงของบริษัท ในการพัฒนานวัตกรรมส่วนประกอบของอาหาร และตอบสนองความต้องการใหม่ๆ ของผู้บริโภค
“ทางบริษัทต้องการให้ลูกค้าในแวดวงอุตสาหกรรมอาหารมองเห็นว่า แนชันแนลสตาร์ชมีความพร้อมในการพัฒนาโซลูชั่นใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของอุตสาหกรรมการแปรรูปอาหาร และตอบสนองต่อความต้องการล่าสุดของตลาดได้เป็นอย่างดีด้วย” มร. ลอเรนท์ กล่าวเสริม
นอกจากนี้ ทางบริษัทยังมองเห็นโอกาสในการขยายตลาดสำหรับผลิตภัณฑ์อาหารเสริม สุขภาพ อาหารธรรมชาติ และอาหารที่มีคุณสมบัติพิเศษทางด้านความแปลกใหม่ของรสชาติและผิวสัมผัสอีกด้วย โดยเฉพาะตลาดอาหารเสริมสุขภาพและอาหารชีวภาพนั้น กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในประเทศจีน เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น ซึ่งการเปิดตัวผลิตภัณฑ์อาหารปลอดสารปรุงแต่งและสารกันบูด มีเพิ่มมากขึ้นถึงร้อยละ 50 ทั่วโลกภายในระยะเวลาเพียงสองปีที่ผ่านมา โดยการสำรวจพบว่า ผู้บริโภคในภูมิภาคเอเชียตะวันออกต้องการอาหารสำเร็จรูปที่มีคุณค่าทางโภชนาการเพิ่มสูงขึ้น โดยไม่ต้องการให้อาหารมีรสชาติเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมากนัก
“ความต้องการของตลาดดังกล่าว นับว่าเป็นเรื่องท้าทายต่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารยุคใหม่อย่างยิ่ง ซึ่งเราสามารถแสดงให้ลูกค้าเห็นได้ว่า ไม่ใช่เรื่องยากหากจะทำให้อาหารมีคุณค่าทางโภชนาการสูงขึ้นโดยไม่เสียรสชาติและคุณสมบัติที่พึงประสงค์ด้านอื่นๆไป รวมทั้งยังสามารถเติมสารอาหารที่มีคุณค่าต่อสุขภาพซึ่งผ่านการรับรองทางการแพทย์แล้วได้อีกด้วย ซึ่งนวัตกรรมของแนชันแนลสตาร์ชจะสามารถช่วยให้ลูกค้าเข้าถึงผลิตภัณฑ์แห่งอนาคตได้” มร. พอล บอร์ดฟุต ผู้อำนวยการด้านการพัฒนาโภชนาการและธุรกิจของแนชันแนลสตาร์ชแอนด์เคมิคอลกล่าว
ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์หลักของแนชันแนลสตาร์ชที่จำหน่ายในภูมิภาคเอเชียได้แก่ผลิตภัณฑ์เส้นใยอาหารไฮ-เมซ(Hi-maize?) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์เส้นใยอาหารไม่ละลายน้ำที่มีการจำหน่ายเชิง พาณิชย์ตัวแรกของโลก โดยเป็นเส้นใยอาหารที่ผลิตจากข้าวโพด ซึ่งผ่านกระบวนการวิจัยทางการเกษตร รวมทั้งกระบวนการผลิตและแปรรูปในประเทศออสเตรเลีย ไฮ-เมซจะทำหน้าที่เป็นเส้นใยอาหารเมื่ออยู่ในลำไส้ใหญ่ ซึ่งผลการวิจัยทางวิทยาศาสตร์หลายฉบับชี้ให้เห็นว่า มีประโยชน์ต่อสุขภาพของระบบทางเดินอาหารและการขับถ่าย ช่วยควบคุมปริมาณอินซูลิน ควบคุมน้ำหนัก รวมทั้งป้องกันโรคมะเร็งและเบาหวานอีกด้วย ซึ่งปัจจุบันแนชันแนลสตาร์ชได้ร่วมกับบริษัทผู้ผลิตอาหารหลายรายในภูมิภาคเอเชียในการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารที่มีเส้นใยอาหารสูง และมีปริมาณคาร์โบไฮเดรตต่ำ โดยใช้ไฮ-เมซเป็นส่วนประกอบ
ผลิตภัณฑ์เส้นใยอาหารไฮ-เมซ ได้รับรางวัลจากสถาบันนักเทคโนโลยีการอาหารนานาชาติเมื่อปี 2546 รวมทั้งรางวัลจากสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการอาหารออสเตรเลียในปี 2538 ส่วนผลิตภัณฑ์แป้งดิบเสริมคุณค่าอาหาร NOVATION? ของแนชันแนลสตาร์ชได้รับรางวัลจากสถาบันนักเทคโนโลยีการอาหารนานาชาติเมื่อปี 2541 โดยบริษัทยังมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์แป้งและเส้นใยอาหารดัดแปลงตัวแรกของวงการ ที่นำไปสู่ความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมอาหารแช่แข็งและอาหารบรรจุกระป๋องในช่วงปี 2490 ถึงปี 2500 ทั้งยังเป็นผู้ผลิตเส้นใยอาหารสำเร็จรูปตัวแรกที่ให้ประโยชน์จากแป้งปรุงสุก และเป็นผู้ผลิตแป้งดิบและแป้งชีวภาพเสริมสุขภาพตัวแรก (NOVATION? และ NOVATION Prima) ที่ใช้งานในการคงสภาพอาหารอีกด้วย

เกี่ยวกับแนชันแนลสตาร์ช ฟู้ด อินโนเวชั่น
แนชันแนลสตาร์ช ฟู้ด อินโนเวชั่น เป็นผู้นำในการผลิตนวัตกรรมอาหารจากธรรมชาติเพื่อวงการอุตสาหกรรมอาหารทั่วโลก โดยเป็นผู้ผลิตสารเพิ่มความหนืด สารเพิ่มผิวสัมผัส สารคงสภาพอาหาร เส้นใยอาหารไม่ละลายน้ำ และเส้นใยอาหารเสริมสุขภาพชนิดต่างๆ ซึ่งเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการและความพึงพอใจในการบริโภคอาหารและเครื่องดื่มหลากหลายชนิด


เหตุผลที่ดิฉันสนใจนวัตกรรมนี้ เนื่องจากประโยชน์ของผลิตภัณฑ์อาหาร ไฮ-เมซ มีประโยชน์ต่อสุขภาพของระบบทางเดินอาหารและระบบขับถ่าย ช่วยควบคุมปริมาณอินซูลิน ควบคุมน้ำหนัก และยังสามารถป้องกันโรคมะเร็งและโรคเบาหวานได้อีกด้วย

วันอังคารที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2550

Teacher's Trip

Rafting ล่องแก่ง !!!

Kang - Ka - Jan Petchaburi

ประวัติส่วนตัว



ดิฉันชื่อ กรรณิกา พินิจจันทร์

เกิด วันที่ 25 ตุลาคม 2521

ชอบสีชมพู

บ้านเกิดอยู่จังหวัด ชัยนาท


จบปริญญาตรีจาก มหาวิทยาลัยรามคำแหง คณะบริหารธุระกิจ

ปัจจุบัน มีลูกชาย 1 คน อายุ 1 ขวบ 8 เดือน

สามีสอบได้เป็นนายร้อยตำรวจ
ส่วนดิฉันได้เป็น...คุณนาย... แว้ว อิอิอิ....